ประวัติผ้าเทปกายภาพบำบัด

มากกว่า 25 ปีแล้วที้ผ้าเทปคิเนซิโอได้สร้างขีดจำกัดใหม่ของ การเพิ่มประสิทธิภาพทางกีฬา การ
ลดอาการเจ็บปวด และการรักษาทางกายภาพบำบัด

การบำบัดโดยผ้าเทปคิเนซิโอนั้นถูกออกแบบมาเพื่อให้ระบบการรักษาโดยธรรมชาตินั้น ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นและช่วยในการสนับสนุนการทำงานของระบบ กล้ามเนื้อและข้อกระดูก โดยไม่ส่งผลต่อขีดจำกัดของการเคลื่อนไหว โดยในปัจจุบันผ้าเทปคิเนซิโอนั้นได้ถูกใช้ในการบำบัดอาการทาง กล้ามเนื้อ ระบบประสาท และใช้ในการแพทย์หลายแขนง ซึ่งการบำบัดของอาการต่างๆโดยใช้ระบบผ้าเทปคิเนซิโอได้สร้างผลลัพท์ที่เหนือ กว่าแนวทางรักษาแบบเก่า

กว่า 30 ปีที่แล้ว ดร.เคน โซ คาเซ่ ซึ่งในขณะนั้นได้เป็นนักบำบัดทางด้านการจัดกระดูกและฝังเข็มที่ค่องข้างมี ชื่อเสียงอยู่แล้วในประเทศญีปุ่น ได้คิดค้นผ้าเทปซึ่งมีความยืดหยุ่นไกล้เคียงกับผิวหนังของมนุษย์ เพื่อมาใช้ทดแทนการใช้ผ้าเทปในขณะนั้นซึ่งไม่ให้อิสระในการเคลื่อนไหว
ด้วยประสบการณ์ของ ดร.คาเซ่ ในวิธีการรักษาบำบัดของการแพทย์ของญี่ปุ่นและตะวันตก ทำให้ดร.คา เซ่เริ่มตระหนักถึงขีดจำกัดในแนวคิดของแพทย์ตะวันตกซึ่งเชื่อว่า เมื่อกระดูกหรือข้อต่อนั้นเคลื่อนออกจากที่หรือเปลี่ยนรูปร่างไปมันจะไม่ สามารถกลับมาคือรูปแบบเดิมได้ จึงทำให้ท่านเริ่มสนใจการวิจัยจัดกระดูกโดยใช้เทปต่างๆ ซึ่งตรงข้ามกับแนวคิดตะวันตกอย่างสิ้นเชิง

ซึ่งจากการวิจัย ดรคาเซ่ได้พบว่าจากการบาดเจ็บส่วนใหญ่ปัญหาหลักอยู่ที่ระบบกล้ามเนื้อ ซึ่งเมื่อบาดเจ็บแล้วอาจสูญเสียความยืดหยุ่นได้ซึ่งจะส่งผลกับข้อต่อ เพราะฉะนั้นวิธีการบำบัดที่ได้ผลที่สุดควรเป็นการจัดการกับกล้ามเนื้อให้ กลับมาทำงานหรือคืนรูปแบบเดิม ซึ่งจะทำได้ต่อเมื่อใช้ผ้าเทปซึ่งมีคุณสมบัติย์ต่างจากเทปทั่วๆไปในตลาดขณะ นั้นซึ่งไม่มีความยืดหยุ่นแลละถูกออกแบบให้ระงับการเคลื่อนไหวของข้อต่อ

ด้วยเหตุนี้ ดร.คา เซ่จึงจำเป็นต้องคิดค้นผ้าเทปซึ่งมีความยืดหยุ่นเท่ากับกล้ามเนื้อมนุษย์และ หลังจากการวิจัยร่วมสองปีจึงได้ผลิตผ้าเทปขึ้น ซึ่งมีความยืดหยุ่นที่เหมาะสม ไร้การระคายเคือง และติดได้แน่นกระชับโดยไม่จำกัดขีดการเคลื่อนไหวของร่างกาย และจึงเกิดเป็นผ้าเทป Kinesio Tex นอกจากนี้ผ้าเทปยังช่วยนการยกระดับผิวหนังส่งผลให้การไหลเวียนของระบบน้ำเหลืองดีขึ้นซึ่งส่งผลต่อการรักษาตัวของกล้ามเนื้อที่ดีขึ้น
โดยย่อประโยชน์ของผ้าเทป Kinesio Tex มีดังนี้
1. สร้างเสริมระบบการทำงานของกล้ามเนื้อและเส้นประสาท
2. ลดความเจ็บปวด
3. เพิ่มประสิทธิภาพของระบบกล้ามเนื้อ
4. ป้องกันการเจ็บปวด
5. เพิ่มการไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลือง